不教的教育 读后感 心得体会

爱，不仅要用心，还要会爱，首先要尊重孩子。书中有句话这样写的:”让孩子成为他自己“，有多少家长做到了呢?家长总是用一副高高在上的口气和孩子说话，总是希望孩子们做一个有着自己的思想但是做起事情确和家长思想一样的人，可能吗?孩子是孩子，请尊重孩子，给孩子自己的空间和时间去扮演自己的角色。书中的经典语录:”不要以为你的孩子什么都不懂，他是神奇的自然之子，有着强大的能量。他们甚至是我们的老师，而我们，要学会敬畏生命，敬畏自然。“

让阅读陪伴孩子的一生。阅读，就有改善智力、改变命运的功能。让孩子爱上书，就是爱上思考，就是爱上快乐。

家长的作用陪伴者支持者和玩伴。现代社会父母生活工作压力增加，一方面大部分的时间都用在工作和应酬上，()一方面为了让孩子不输在起跑线上，从小就让孩子开始学习各种知识，并额外的学习很多才艺等，很少有人能抽出足够的时间经常陪伴孩子玩耍，虽然我们物质水平提高了，可是

再多的玩具，再漂亮的衣服，再好吃的零食都满足不了孩子精神上的需求，再说学习≠智力开发，不要因为错误的拔苗助长而错过陪伴孩子的最佳时间。

家庭系统影响孩子的一生。家庭是一个系统，为了保持平衡，孩子作为家庭系统的薄弱环节，总是最容易受伤害的。书中讲到孩子性格形成主要是因为孩子站在弱势父母一方，孩子出现的心身疾病多是孩子为了纠正家庭系统错误而引起的。认识自己的家庭，注意父母的沟通方式，如何平衡这个系统，才不会伤害孩子，是值得我们深思的问题。

《不教的教育》是一本值得反复阅读的书籍。孩子是父母的一面镜子，父母要以身作则，给孩子做一个好的榜样，孩子才能健康的成长。

不教的教育读后感阅读了《不教的教育》之后，我深有感触，以下我分享一下我的心得体会:

心得一:“蹲下来和孩子说话”很多父母总是以居高临下的姿态和孩子说话，觉得自己这样做是为了孩子好，从来没有想过站在孩子的角度去思考问题，只有蹲下来你才能看见孩子眼里的世界是什么样的，只有蹲下来用孩子的思维思考一下，你才能切身体会孩子为什么会有你不能理解的举动。只有蹲下来在同一平等的位置上，孩子才不会觉得你是在拿家长的身份压制他，命令他。蹲下来不但能拉近父母与孩子之间的空间距离，还能拉近和孩子心灵的距离。

心得二:我们要站在正确的立场上理解“不要让孩子输在起跑线上”这句话，很多家长希望自己的孩子以后能成为社会上的一名佼佼者，所以从小就让孩子开始学习各种知识，并额外的学习很多才艺等等，而我觉得“不要让孩子输在起跑线上”，应该不让孩子输在能力的起跑线上，正如《不教的教育》里面的一句话“一个人的智力绝对不仅仅是读、写、算等技能，更多的是包括解决问题的能力，应对挑战的能力，以及与周围环境沟通协调的能力和具有创新实践能力等。

心得三:”父母给孩子最好的礼物就是陪伴“在繁忙的城市，父母为了生计，大部分的时间都用在工作和应酬上，很少有人能抽出足够的时间经常陪伴孩子，导致孩子普遍心理孤单和渴望父母陪伴，也有很多父母意识到照顾孩子的时间不多，心里有愧于孩子，所以用物质弥补孩子，而家长却没有意识到再多的玩具，在漂亮的衣服，再好吃的零食都满足不了孩子心灵上的需求，所以我觉得家长不应该以工作忙为理由疏于陪伴孩子，当你赚了大把的金钱后却发现孩子和你的距离已经拉的很远了，那时再多的金钱都无法拉近你与孩子之间的距离，因为你已经错过了陪伴孩子的最佳时间。

英语翻译：

To love, you must not only use your heart, but also know how to love. First of all, you must respect children. There is a sentence in the book that says: "Let the child be himself". How many parents have done it? Parents always talk to their children in a high-pitched tone, and always hope that the children have their own thoughts but do Is it possible to start things like the parents think? The child is a child. Please respect the child and give the child his own space and time to play his role. The classic quotation in the book: "Don't think that your child doesn't understand anything. He is a magical child of nature with powerful energy. They are even our teachers, and we must learn to respect life and nature."

Let reading accompany your child's life. Reading has the function of improving intelligence and changing destiny. To make children fall in love with books is to fall in love with thinking and to fall in love with happiness.

The role of parents, companions, supporters and playmates. In modern society, parents’ life and work pressures have increased. On the one hand, most of their time is spent on work and entertainment. () On the one hand, in order to keep their children from losing at the starting line, let the children begin to learn a variety of knowledge from an early age and learn a lot of extra Talent etc. Few people can spare enough time to play with their children often. Although our material level has improved, but

No amount of toys, no amount of beautiful clothes, no amount of delicious snacks can satisfy a child's spiritual needs, let alone learning ≠ intellectual development, don't miss the best time to accompany your child because of the wrong cultivation.

The family system affects a child's life. The family is a system. In order to maintain balance, children, as the weak link in the family system, are always the most vulnerable. It is mentioned in the book that the formation of children's character is mainly due to the fact that children stand on the side of disadvantaged parents, and that children's psychosomatic diseases are mostly caused by children in order to correct family system errors. Knowing one's own family, paying attention to the way parents communicate, and how to balance this system so as not to harm the children are issues worthy of our consideration.

"Education Without Teaching" is a book worth reading repeatedly. Children are a mirror of their parents. Parents must lead by example and set a good example for their children, so that children can grow up healthily.

After reading "Education Without Teach", I am deeply moved, and I will share my experience and experience below:

Lesson 1: "Squat down and talk to children" Many parents always talk to their children in a condescending posture. They feel that they are doing this for the sake of their children. They have never thought of thinking from the perspective of their children. You can only see when you squat down. What is the world in the eyes of a child? Only when you squat down and think about it in your child's mind, can you fully understand why your child behaves in ways that you cannot understand. Only by squatting down in the same equal position, the child will not feel that you are suppressing him and ordering him as a parent. Squatting down can not only shorten the space distance between parents and children, but also shorten the distance between children and their hearts.

Lesson 2: We must understand the phrase "don’t let your children lose at the starting line" from the right standpoint. Many parents hope that their children will become leaders in society in the future, so they should start learning everything from an early age. This kind of knowledge, and extra learning a lot of talents, etc., and I think "don’t let children lose on the starting line", should not let children lose on the starting line of ability, just like the saying in "Education without Teaching", "One person His intelligence is definitely not only the skills of reading, writing, and arithmetic, but also the ability to solve problems, the ability to deal with challenges, the ability to communicate and coordinate with the surrounding environment, and the ability to innovate and practice.

Lesson 3: "The best gift parents give their children is companionship." In busy cities, parents spend most of their time on work and entertainment for their livelihoods. Few people can spare enough time to accompany their children often, which leads to children in general Psychologically lonely and longing for the company of their parents, many parents realize that they don’t have much time to take care of their children and feel ashamed of their children, so they make up for their children with material things, but the parents do not realize that no matter how many toys, in beautiful clothes, no matter how delicious they are None of the snacks can satisfy the children’s spiritual needs, so I think parents should not neglect to accompany their children on the grounds that they are busy with work. When you have made a lot of money, you find that the distance between your children and you has been extended. At that time, no amount of money can narrow the distance between you and your child, because you have missed the best time to be with your child.

参考翻译：

การรักคุณไม่เพียง แต่ต้องใช้ใจเท่านั้น แต่ต้องรู้จักรักก่อนอื่นคุณต้องเคารพลูก มีประโยคหนึ่งในหนังสือกล่าวว่า“ ปล่อยให้ลูกเป็นตัวของตัวเอง” พ่อแม่ทำมากี่คนแล้วพ่อแม่มักจะพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงแหลมสูงเสมอและหวังให้ลูกมีความคิดของตัวเอง แต่ทำ เป็นไปได้ไหมที่จะเริ่มต้นสิ่งต่างๆอย่างที่พ่อแม่คิดเด็กก็คือเด็กโปรดเคารพเด็กและให้พื้นที่และเวลาแก่เด็กในการแสดงบทบาทของเขาเอง คำพูดคลาสสิกในหนังสือ: "อย่าคิดว่าลูกของคุณไม่เข้าใจอะไรเลยเขาเป็นเด็กมหัศจรรย์จากธรรมชาติที่มีพลังมหาศาลพวกเขาเป็นครูของเราและเราต้องเรียนรู้ที่จะเคารพชีวิตและธรรมชาติ"

ให้การอ่านมาพร้อมกับชีวิตของบุตรหลานของคุณ การอ่านมีหน้าที่ในการปรับปรุงสติปัญญาและการเปลี่ยนแปลงโชคชะตา การทำให้เด็กตกหลุมรักหนังสือคือการตกหลุมรักความคิดและการตกหลุมรักความสุข

บทบาทของพ่อแม่เพื่อนผู้สนับสนุนและเพื่อนเล่น ในสังคมสมัยใหม่ความกดดันในชีวิตและการทำงานของพ่อแม่มีมากขึ้นในแง่หนึ่งเวลาส่วนใหญ่หมดไปกับงานและความบันเทิง () ในแง่หนึ่งเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกสูญเสียจากการเริ่มต้นควรให้เด็ก ๆ เริ่มเรียนรู้ความรู้ที่หลากหลายตั้งแต่อายุยังน้อยและเรียนรู้เพิ่มเติมมากมาย ความสามารถพิเศษเป็นต้นไม่กี่คนที่สามารถเผื่อเวลาเล่นกับลูก ๆ บ่อยๆแม้ว่าระดับวัสดุของเราจะดีขึ้น แต่

ไม่มีของเล่นไม่มีเสื้อผ้าสวย ๆ ขนมอร่อย ๆ สักเท่าไหร่ที่สามารถตอบสนองความต้องการทางวิญญาณของเด็กได้นอกจากนี้การเรียนรู้พัฒนาการทางสติปัญญาอย่าพลาดเวลาที่ดีที่สุดที่จะอยู่กับลูกของคุณเพราะการปลูกฝังที่ไม่ถูกต้อง

ระบบครอบครัวมีผลต่อชีวิตของเด็ก ครอบครัวเป็นระบบเพื่อรักษาความสมดุลเด็กซึ่งเป็นจุดเชื่อมโยงที่อ่อนแอของระบบครอบครัวจึงเป็นกลุ่มที่เปราะบางที่สุดเสมอ มีการกล่าวถึงในหนังสือว่าการสร้างลักษณะนิสัยของเด็กส่วนใหญ่เกิดจากการที่เด็กยืนอยู่ข้างพ่อแม่ที่ด้อยโอกาสและโรคทางจิตของเด็กส่วนใหญ่เกิดจากการที่เด็กแก้ไขข้อผิดพลาดของระบบครอบครัว การรู้จักครอบครัวของตนเองการให้ความสำคัญกับวิธีการสื่อสารของพ่อแม่และการสร้างสมดุลของระบบนี้เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อเด็กเป็นประเด็นที่ควรค่าแก่การพิจารณาของเรา

"การศึกษาโดยไม่ต้องสอน" เป็นหนังสือที่ควรค่าแก่การอ่านซ้ำ ๆ เด็กเป็นกระจกเงาของพ่อแม่ผู้ปกครองต้องเป็นผู้นำโดยแบบอย่างและเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกเพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีสุขภาพดี

หลังจากอ่าน "การศึกษาที่ไม่มีการสอน" ฉันรู้สึกสะเทือนใจอย่างมากและจะแบ่งปันประสบการณ์และประสบการณ์ด้านล่าง:

บทที่ 1: "หมอบลงและคุยกับลูก" พ่อแม่หลายคนมักจะพูดกับลูกในท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตนพวกเขารู้สึกว่าทำสิ่งนี้เพื่อประโยชน์ของลูก ๆ พวกเขาไม่เคยคิดที่จะคิดจากมุมมองของลูกคุณจะเห็นได้ก็ต่อเมื่อคุณหมอบลงเท่านั้น โลกในสายตาของเด็กเป็นอย่างไรเมื่อคุณหมอบลงและคิดถึงเรื่องนี้ในใจของเด็กก่อนเท่านั้นคุณจะเข้าใจได้ว่าทำไมลูกของคุณจึงมีพฤติกรรมในแบบที่คุณไม่เข้าใจ เพียงแค่นั่งยองๆในท่าที่เท่ากันเด็กจะไม่รู้สึกว่าคุณข่มเขาและสั่งเขาในฐานะพ่อแม่ การนั่งยองลงไม่เพียง แต่จะทำให้ระยะห่างระหว่างพ่อแม่และลูกสั้นลง แต่ยังช่วยลดระยะห่างระหว่างเด็กกับหัวใจของพวกเขาด้วย

บทที่ 2: เราต้องเข้าใจประโยค "อย่าปล่อยให้ลูกของคุณสูญเสียที่จุดเริ่มต้น" จากจุดยืนที่ถูกต้องพ่อแม่หลายคนหวังว่าลูก ๆ จะกลายเป็นผู้นำในสังคมในอนาคตดังนั้นให้พวกเขาเรียนรู้จากกันตั้งแต่ยังเด็ก ความรู้ประเภทนี้และการเรียนรู้เพิ่มเติมความสามารถมากมาย ฯลฯ และฉันคิดว่า "อย่าปล่อยให้เด็กสูญเสียในบรรทัดเริ่มต้น" ไม่ควรปล่อยให้เด็กสูญเสียความสามารถในบรรทัดเริ่มต้นเช่นเดียวกับคำพูดใน "การศึกษาที่ไม่มีการสอน" "คน ๆ เดียว ความฉลาดของเขาไม่เพียง แต่เป็นทักษะในการอ่านการเขียนและการคำนวณเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสามารถในการแก้ปัญหาความสามารถในการจัดการกับความท้าทายความสามารถในการสื่อสารและประสานงานกับสภาพแวดล้อมโดยรอบและความสามารถในการสร้างสรรค์และฝึกฝน

บทที่ 3: "ของขวัญที่ดีที่สุดที่พ่อแม่มอบให้ลูกคือมิตรภาพ" ในเมืองที่พลุกพล่านพ่อแม่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในการทำงานและความบันเทิงเพื่อหาเลี้ยงชีพมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถมีเวลาอยู่กับลูกได้บ่อยครั้งซึ่งทำให้เด็ก ๆ โดยทั่วไป ในทางจิตใจรู้สึกเหงาและโหยหา บริษัท ของพ่อแม่พ่อแม่หลายคนตระหนักดีว่าพวกเขาไม่มีเวลาดูแลลูกมากนักและรู้สึกละอายใจกับลูก ๆ ดังนั้นพวกเขาจึงชดเชยสิ่งที่เป็นวัตถุให้กับลูก ๆ แต่พ่อแม่ไม่รู้ว่าไม่ว่าจะมีของเล่นกี่ชิ้นเสื้อผ้าที่สวยงามมันก็อร่อย ไม่มีของว่างใดที่จะตอบสนองความต้องการทางวิญญาณของเด็ก ๆ ได้ดังนั้นฉันคิดว่าพ่อแม่ไม่ควรละเลยที่จะพาลูกไปด้วยเพราะยุ่งกับงานเมื่อคุณหาเงินได้มากคุณจะพบว่าระยะห่างระหว่างลูกและคุณได้ขยายออกไป ในเวลานั้นไม่มีเงินจำนวนใดที่สามารถ จำกัด ระยะห่างระหว่างคุณกับลูกได้เพราะคุณพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะได้อยู่กับลูก